ซามอยด์ เจ้าหมาขนปุยและรอยยิ้มอันสดใส ระวังหลงไม่รู้ตัว

ซามอยด์ เจ้าหมาขนปุยและรอยยิ้มอันสดใส ระวังหลงไม่รู้ตัว

ซามอยด์ คือชื่อของสายพันธุ์สุนัขที่มีลักษณะขนสีขาวฟูฟ่อง ที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก โดยมีต้นกำเนิดความน่ารักมาจากการผสมพันธุ์ระหว่างหมาป่า และสุนัขจิ้งจอกเข้าด้วยกัน ก่อนจะได้รับการพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นซามอยด์ในที่สุด ซึ่งชื่อของสุนัขพันธุ์นี้ก็ได้มาจากชาวซามอยด์ของไซบีเรียนั่นเอง

ซามอยด์ ถิ่นกำเนิดและที่มาสุนัข สายพันธุ์นี้

ประวัติความเป็นมา สุนัขซามอยด์ มีถิ่นกำเนิดแถบไซบีเรีย ในประเทศรัสเซีย ซามอยส์เป็นสายพันธุ์โบราณ ที่ถูกคัดเลือกโดยชนเผ่านนอร์มังดิ (Nomadic) เพื่อใช้ต้อนฝูงกวางเรนเดียร์ และลากเลื่อนหากจำเป็น แรกเริ่มสุนัขพันธุ์นี้มีหลายสี แต่ต่อมากสีขาวได้เป็นที่ยอมรับเกือบทั่วโลก โดยสุนัขพันธุ์โซเวียต เนเนท เฮิร์ดดิ้ง ไลกา (Soviet Nenet Herding Laika) อาจจะเป็นบรรพบุรุษที่แท้จริงของสุนัขพันธุ์ซามอยส์ในปัจจุบัน

พวกเขาอดทน เป็นมิตร ซามอยด์เข้ามายังประเทศอังกฤษในช่วงปลายคริสตศักราชที่ 1800 โดยเป็นของขวัญจากพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย โดยเป็นที่ทราบกันว่าพระราชินีอเล็กซานดรา (Queen Alexandra) ทรงโปรดปรานสุนัขพันธุ์นี้ นอกจากนี้เขายังได้ร่วมในการสำรวจขั้วโลก ที่มีชื่อเสียงคือสุนัขที่ชื่อ “อีทาฮ์” (Etah) ที่ได้นำ โรอาลด์ อามันด์เซน ในการเดินทางไปขั้วโลกใต้ครั้งแรก กระทั่งถึงปัจจุบันที่แพร่กระจายไปเกือบทุกประเทศทั่วโลกในฐานะสัตว์เลี้ยงในบ้าน

ที่มา https://boxmeaww.com/

ลักษณะทั่วไปของซามอยด์

ซามอยด์ เป็นสุนัขที่มีขนาดกลาง สูงระหว่าง 19 ถึง 23 1/2 นิ้ว และหนักระหว่าง 50 ถึง 65 ปอนด์ (23 ถึง 29 กิโลกรัม) ส่วนเพศเมียเมื่อโตเต็มวัยจะสูงราว 20 นิ้ว โดยมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50 – 65 ปอนด์

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของซามอยด์ คือ มีขนที่ฟู หนา นุ่ม คล้ายกับขนของสัตว์ป่าหรือหมาป่า แต่จะมีชั้นของขนที่หนากว่า และมีหางที่เป็นปุยพุ่มม้วนอยู่บริเวณด้านหลัง สีขนของซามอยด์ มีทั้งสีขาวที่พบเห็นได้โดยทั่วไปหรือสีครีม รวมไปถึงสีบิสกิต ส่วนใบหน้านั้นจะมีลักษณะคล้ายกับหมาป่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นพันธุ์ผสมที่พัฒนามาจากหมาป่าและสุนัขจิ้งจอกเข้าด้วยกัน

สุนัขพันธุ์นี้จะไม่มีสีอื่นๆ มาผสม หากขนเป็นสีใดก็จะเป็นสีนั้นตลอดทั้งลำตัว นอกจากนี้ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะอีกประการของซามอยด์ที่แตกต่างจากสุนัขพันธุ์อื่น ๆ ก็คือรูปปากที่มีความหยักนิดๆ ทำให้เหมือนว่ากำลังยิ้ม กลายเป็นที่มาของการขนานนามว่า “รอยยิ้มของซามอยด์”

ซามอยด์

ที่มา https://boxmeaww.com/

ลักษณะนิสัยของซามอยด์

ซามอยด์ มีนิสัยกระตือรือร้น ซึ่งถือเป็นความโดดเด่นของสุนัขสายพันธุ์นี้ น้อยครั้งมากที่เราจะเห็นซามอยด์นั่งหงอย เพราะส่วนใหญ่แล้วไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดซามอยด์จะเป็นสุนัขที่กระตือรือร้น และหากิจกรรมต่างๆ ทำเป็นประจำอยู่เสมอ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์สุนัขที่รักการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีนิสัยที่เหมาะสำหรับเลี้ยงเอาไว้เพื่อเป็นเพื่อนยามเหงา เพราะซามอยด์เป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรต่อมนุษย์สูงมาก ปรับตัวได้ง่ายกับสภาพแวดล้อมหรือผู้คน และพร้อมรับใช้เจ้าของอย่างเต็มที่ซามอยด์ยังได้ชื่อว่าเป็นหมาแสนรู้ เพราะมีความฉลาดอย่างมาก เชื่อฟัง และฝึกฝนได้ง่าย สามารถฝึกให้ระแวดระวังภัย และเตือนภัยต่าง ๆ รวมไปถึงฝึกให้ไล่จับสัตว์ตัวเล็กๆ ชนิดอื่น ตลอดจนการต้อนสัตว์เข้าคอก หรือดูแลเด็กเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี นับเป็นความอัจฉริยะที่สุนัขพันธุ์นี้มีมาแต่กำเนิด หากฝึกให้เก่งหรือมีวินัยขึ้นซักหน่อยก็จะจัดว่าเป็นสุนัขที่มีความอัจฉริยะสูง

อาหารการกินของซามอยด์

สุนัขซามอยด์สามารถกินได้ทั้งอาหารสำเร็จรูป และอาหารปรุงสุก และเพื่อเป็นการบำรุงให้ซามอยด์มีสุขภาพแข็งแรง เราควรเลือกอาหารให้เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ซามอยด์เป็นสุนัขที่มีระยะเวลาการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 4-7 เดือนแรก ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของกระดูกและสรีระที่ไม่เหมาะสม ผู้เลี้ยงจึงควรใส่ใจในเรื่องอาหารการกินของน้องหมาเป็นพิเศษเพื่อ การเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม ดังนั้น จึงควรให้เขาได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ซึ่งควรเป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูปที่มีวางขายตามท้องตลาด เพราะในอาหารเม็ดดังกล่าวจะรวมคุณค่าของสารอาหารที่จำเป็นต่อสุนัขเอาไว้อย่างครบถ้วน หรือผู้เลี้ยงอาจจะเพิ่มในส่วนของวิตามินบำรุงเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายให้เขามากขึ้นด้วยก็ได้

ซามอยด์

ที่มา https://boxmeaww.com/

การดูแลสุขภาพของซามอยด์เบื้องต้น

สำหรับการดูแลสุขภาพสุนัขซามอยด์ในเบื้องต้นนั้น เจ้าของสามารถทำได้ ดังนี้

1. ควรอาบน้ำอย่างน้อยเดือนละครั้ง

เนื่องด้วยขนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของซามอยด์ ผู้เลี้ยงจึงไม่ควรอาบน้ำน้องหมาบ่อยๆ โดยควรอาบแค่เดือนละ 1 ครั้ง เพราะหากอาบน้ำบ่อยจะทำให้น้ำมันที่เกิดตามธรรมชาติบริเวณขนและผิวหนังของซามอยด์ ถูกชะล้างออกไป ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา

2. แปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์

ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องอาบน้ำบ่อยๆ แต่ก็จำเป็นที่ผู้เลี้ยงจะต้องแปรงขนซามอยด์อยู่เสมอ เพราะลักษณะขนของสุนัขพันธุ์นี้มักจะพันกันยุ่งเหยิงบ่อยครั้ง ทำให้ต้องหมั่นแปรงเพื่อให้ขนตรงสวย ไม่พันเป็นก้อน และเพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้างอยู่ภายในบริเวณเส้นขน ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพของน้องหมาได้

3. หมั่นพาไปออกกำลังกายเป็นประจำ

พื้นฐานของสุนัขซามอยด์ เมื่อก่อนเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้ใช้งานเป็นหลัก ทำให้เมื่อนำมาเลี้ยงตามบ้านแล้ว ผู้เลี้ยงก็ควรหากิจกรรมให้น้องหมาทำ อย่าปล่อยให้เขาอยู่เฉยๆ จนอาจเกิดความเบื่อ เช่น พาไปออกกำลังกายเป็นประจำ หรือวิ่งเล่นในสวนสาธารณะ เพื่อให้น้องหมาได้เผาผลาญพลังงานในร่างกายอย่างเหมาะสม

4. เช็คร่างกาย ตรวจสุขภาพทุกๆ 6 เดือน

ผู้เลี้ยงควรพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อเช็คร่างกายว่าปกติดีหรือไม่ หรือหากพบสัญญาณโรคใดก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ จะได้รีบทำการรักษาได้อย่างทันการณ์นั่นเอง

ซามอยด์

ที่มา https://boxmeaww.com/

ข้อควรระวังในการเลี้ยงซามอยด์

พื้นที่ที่เลี้ยงซามอยด์ภายในบ้าน ควรเป็นพื้นที่ที่มีสภาพบรรยากาศปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีอุณหภูมิที่เย็นพอเหมาะ ไม่ควรเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง เพราะซามอยด์เป็นสุนัขขี้ร้อนและมีขนหนา ถ้าอากาศร้อนไปก็อาจจะทำกลายเป็น

โรคเกี่ยวกับผิวหนังได้ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงควรต้องระมัดระวังโรคต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับน้องหมาซามอยด์เป็นพิเศษ เพราะสามารถเป็นโรคสะโพกเสื่อม ต้อกระจก ต้อหิน ประสาทตาเสีย และเบาหวานได้ทุกเมื่อ ดังนั้น ไม่ควรชะล่าใจในการพาน้องหมาไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยทุก 6 เดือนอย่างเด็ดขาด Ufabet เว็บหลัก

Credit by : ufabet