ปั๊ก เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีพื้นเพมาจากประเทศจีน โดยมีลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่น คือ ใบหน้าย่น ปากสั้น และหางที่โค้งงอ สายพันธุ์นี้มีขนที่ละเอียดและมันวาวซึ่งมีหลายสี ส่วนใหญ่มักเป็นสีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลแกมเหลือง หรือสีดำ และลำตัวทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดกะทัดรัดพร้อมกล้ามเนื้อที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ได้รับความนิยม
ปั๊กถูกนำจากประเทศจีนไปยังยุโรปในศตวรรษที่สิบหกและได้รับความนิยมในยุโรปตะวันตกโดย House of Orange of the Netherlands และ House of Stuart ในสหราชอาณาจักร ในสมัยศตวรรษที่สิบเก้า สมเด็จพระราชินีวิกตอเรียทรงมีความหลงใหลในปั๊กซึ่งเธอได้ส่งต่อความชอบนี้ไปยังสมาชิกคนอื่นๆ ของราชวงศ์
ปั๊กเป็นสุนัขที่เข้ากับคนง่ายและเป็นมิตร ทางด้านสมาคม American Kennel Club อธิบายถึงบุคลิกของสุนัขสายพันธุ์นี้ว่า “อารมณ์ดีและมีเสน่ห์” สุนัขพันธุ์ปั๊กยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบันโดยมีเจ้าของเป็นเซเลบและคนดังหลากหลายคน
ลักษณะทางกายภาพ
แม้ว่าสุนัขพันธุ์ปั๊กที่มีให้เห็นในภาพพิมพ์ในศตวรรษที่สิบแปดมักจะยาวและผอมเพรียว แต่เพราะความชอบผู้เลี้ยงสมัยใหม่คือสำหรับหุ่นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส รูปร่างกะทัดรัด หน้าอกลึก ขนที่เรียบและมันวาวอาจเป็นสีน้ำตาลแกมเหลือง สีน้ำตาลแกมส้ม สีน้ำตาลแกมเงินหรือสีดำ มีลักษณะทางกายภาพชัดเจนและมีเส้นสีดำลากยาวจากท้ายทอยถึงหาง หางขดแน่นเหนือสะโพก
ขาของปั๊กแข็งแรง ตั้งตรง มีความยาวปานกลาง ไหล่ของพวกปั๊กอยู่ในระดับปานกลาง ข้อเท้ามีความแข็งแรง เท้ามีขนาดเล็ก นิ้วเท้าแยกออกได้ เล็บสีดำ โดยปกติฟันล่างของปั๊กจะยื่นออกมามากกว่าฟันบน ส่งผลให้ฟันคุดได้
สุนัขพันธุ์นี้มักถูกอธิบายโดยวลีภาษาละติน multum in parvo หรือ “มากในน้อย” ซึ่งหมายถึงบุคลิกที่โดดเด่นและมีเสน่ห์ของปั๊กแม้ว่าจะมีขนาดเล็ก ปั๊กไม่ค่อยก้าวร้าว และเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก สุนัขสายพันธุ์ปั๊กส่วนใหญ่ชอบเด็กมากและแข็งแรงพอที่จะเล่นกับพวกมันได้ นอกจากนี้ ปั๊กสามารถเงียบและเชื่องแต่ก็ยังร่าเริงและชอบเล่น ปั๊กมักจะใช้สัญชาตญาณและอ่อนไหวต่ออารมณ์ของเจ้าของ และมักจะกระตือรือร้นที่จะทำให้พวกมันพอใจ ปั๊กขี้เล่นและเจริญเติบโตได้ดีเมื่ออยู่ร่วมกับมนุษย์ ปั๊กชอบนอนและอาจใช้เวลาส่วนใหญ่ในการนอน ปั๊กมักติดตามเจ้าของของมันไปรอบๆ และชอบที่จะอยู่ใกล้ชิด เป็นสุนัขที่ต้องการความใส่ใจ และความรักจากเจ้าของ
การเกิดและการสืบพันธุ์
การตั้งครรภ์ของปั๊กใช้เวลาเฉลี่ย 63 วัน ครอกขนาดเฉลี่ยของลูกสุนัขปั๊กคือ 4 ถึง 6 ตัว แต่อาจมีได้น้อยสุดหนึ่งตัว หรือ คลอดออกมาทีละ 9 ตัว ก็เป็นเรื่องปกติ และเนื่องจากกะโหลกศีรษะของทารกแรกเกิดมีขนาดสัมพันธ์กับช่องคลอด ปั๊กจึงมักต้องทำการคลอดด้วยการผ่าคลอด
ปั๊ก สุขภาพของมันแย่มาก ‘ไม่ถือว่าเป็นสุนัขทั่วไป
การศึกษาและวิจัยชี้ให้เห็นว่าปั๊กต้องเผชิญกับภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง ซึ่งทำให้ปั๊กไม่สามารถ “เป็นสุนัขทั่วไป” ได้อีกต่อไปจากมุมมองด้านสุขภาพ
การวิจัยจากวิทยาลัย Royal Veterinary College พบว่าสุขภาพของปั๊กในตอนนี้แตกต่างและแย่กว่าสุนัขตัวอื่นๆ อย่างมากจากการศึกษาเปรียบเทียบสุขภาพของสุนัขพันธุ์ปั๊ก 4,308 ตัวและตัวที่ไม่ใช่ปั๊ก 21,835 ตัว
สุนัขพันธุ์ปั๊กในสหราชอาณาจักรมีโอกาสพบความผิดปกติอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปี ซึ่งเป็นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับสุนัขตัวอื่นสุนัขในกลุ่ม Brachycephalic หรือ “brachy” เช่น ปั๊ก บูลด็อก หรือบ็อกเซอร์ ได้รับการเลี้ยงดูมาเพื่อให้มีรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สุนัขพันธุ์ปั๊กได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยมีการลงทะเบียนสุนัขพันธุ์ปั๊กเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่าระหว่างปี 2548-2560
ปัญหาสุขภาพ
โดยรวมแล้ว พบว่าปั๊กมีแนวโน้มที่จะมีความผิดปกติอย่างน้อย 1 อย่างถึง 1.9 เท่าในปีเดียวเมื่อเทียบกับสุนัขที่ไม่ใช่ปั๊ก
การค้นพบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยศัลยแพทย์สัตว์ที่ทำงานที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ให้เหตุผลว่า “ปัญหาคือสุนัขที่มีกะโหลกศีรษะเล็กกว่า แต่อย่างอื่นเของสุนัขตัวนั้นกลับไม่เล็กลงให้สัมพันธ์กับกะโหลก สมองของพวกเขาถูกบีบลงในกล่องที่เล็กเกินไป และเนื้อเยื่ออ่อนอื่นๆ จะถูกบีบอัดให้อยู่ในพื้นที่ที่เล็กกว่า
นั่นทำให้เกิดปัญหามากมายที่สุนัขปั๊กต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ ผิวหนัง และหลังของปั๊ก
โรคทางเดินหายใจอุดกั้นเป็นความผิดปกติที่มีความเสี่ยงสูงในสุนัขปั๊ก
ทางสัตวแพทย์ยังกล่าวอีกด้วยว่าปั๊กรูจมูกแคบนั้นเหมือนกับ “การพยายามหายใจด้วยท่อที่แคบมากๆ” และทำให้สิ่งง่ายๆ เช่น การหายใจ “ทำงานหนักขึ้นมาก”
ภาพทั่วไปที่เรามีกับปั๊ก เช่นภาพพวกมันกำลังยิ้มและแลบลิ้นออกมา ดูเหมือนกำลังหอบ อาจไม่ใช่ภาพที่ “สนุกสนาน” อย่างที่เราคิด เพราะจริงๆ แล้ว มันมีเหตุผลที่พวกเขาต้องหายใจทางปาก นั่นคือพวกเขาหายใจทางจมูกอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้”
นอกจากนี้ยังพบว่าปั๊กมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนัง “พวกเขามีผิวมากกว่าที่พวกเขาต้องการสำหรับขนาดของใบหน้า” ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง ทำให้เกิดความรุนแรงและอาการคันและ หางที่มีรูปร่างขดสวยที่คนชอบ ที่จริงแล้วก็เกิดHจากกระดูกผิดรูป ซึ่งอาจส่งผลให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนได้
การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าปั๊กมีความเสี่ยงต่อสภาวะบางอย่างผิดปกติบางอย่าง รวมถึงการทำงานของหัวใจช้า ความก้าวร้าว และบาดแผล แต่นักวิจัยแนะนำว่าการค้นพบของพวกเขาบ่งชี้ว่าปั๊กหลายตัวอาจประสบปัญหาด้านสุขภาพอย่างร้ายแรง
รองศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาของสัตว์เลี้ยงและผู้เขียนนำรายงานกล่าวว่า “ตอนนี้เราทราบแล้วว่าปัญหาด้านสุขภาพที่รุนแรงหลายอย่างเชื่อมโยงกับรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์งของปั๊กที่มนุษย์จำนวนมากมองว่าน่ารัก”
เขากล่าวว่าสิ่งสำคัญคือต้อง “ให้ความสำคัญกับสุขภาพของสุนัขมากกว่าที่จะตามใจเจ้าของเมื่อเราเลือกชนิดของสุนัขที่จะเป็นเจ้าของ”
คุณทำอะไรได้บ้าง?
ในช่วงฤดูร้อน หมาปั๊กมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับความร้อนมากกว่า เนื่องจากมีทางเดินลมหายใจน้อยกว่า ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีพื้นที่เย็นๆไว้ให้พวกเขา ในขณะที่รูปร่างทรงจัตุรัสแม้อาจดูน่ารัก แต่การควบคุมน้ำหนักก็สำคัญเพราะ “สุนัขหน้าสั้นที่มีน้ำหนักเกินเช่นปั๊กมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากกว่า”
ด้านสัตวแพทย์กล่าวเสริมอีกด้วยว่า “สัตว์มีความคิดและความรู้สึกเป็นของตัวเอง และเราจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกเขามีชีวิตที่ยืนยาว มีความสุข และมีสุขภาพดี”
