เอโปร วิธีการเลือกอาหาร มาดูวิธีการเลือกอาหารของสุนัขที่รักคุณกันเถอะ การเลือกอาหารให้ถูกประเภทกับน้องหมาที่คุณเลี้ยง จริงๆสำคัญมากๆ ต่อระบบร่างกายของน้องๆ
1. อาหารสุนัขแบบเปียก ถือเป็นรูปแบบอาหารที่สุนัขโปรดปราน เนื่องจากอาหารเปียกจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบในอาหารที่ค่อนข้างมาก ช่วยให้สุนัขที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำได้รับน้ำในปริมาณที่เพียงพอ อีกทั้งยังมีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสมมากกว่าแบบอาหารเม็ด ทำให้ได้รับสารอาหารจำพวกโปรตีนที่มากกว่าอาหารเม็ด ที่สำคัญคือ อาหารเปียกมีกลิ่นที่หอม และมีความนิ่มช่วยดึงดูดใจให้สุนัขที่เบื่อการทานอาหารเม็ดสามารถทานได้มากขึ้น หรือสุนัขที่มีอายุมากที่ฟันไม่แข็งแรงก็ทานได้อีกด้วยเช่นกัน แต่ถึงแม้จะมีข้อดีมากมาย อาหารสุนัขแบบเปียกก็มีข้อเสียเช่นกันในเรื่องของระยะเวลาในการเก็บรักษาที่สั้นกว่าอาหารเม็ด มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่า รวมไปถึงอาจทำให้สุนัขถ่ายเหลว และอุจจาระมีกลิ่นเหม็นอีกด้วย

ที่มา https://pcgshoponline.com/product/aproiq-da-20kg
2. อาหารสุนัขแบบเม็ด เป็นอาหารสุนัขที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยความที่หาซื้อง่าย รวมไปถึงความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย หลายยี่ห้อ และหลายสูตร มีการออกแบบให้เข้ากับทั้งช่วงวัย และสายพันธุ์ของสุนัข นอกจากนี้ อาหารเม็ดยังมีส่วนช่วยในการขัดฟัน และลดคราบหินปูน รวมถึงช่วยลดกลิ่นปากของสุนัขได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญอาหารเม็ดยังช่วยให้สุนัขขับถ่ายเป็นก้อน ช่วยควบคุมปริมาณอาหารให้เหมาะสมได้ง่าย อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่อาหารเม็ดก็มีข้อเสียเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องความแข็งของเม็ดอาหาร ที่มักจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากในสุนัขสูงวัย รวมไปถึงอาหารเม็ดบางยี่ห้อที่อาจมีสารปรุงแต่งสี กลิ่นอื่น ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว ดังนั้น ก่อนซื้อจำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดีด้วยเลือกสูตรอาหารให้เหมาะกับช่วงวัย และสายพันธุ์ของสุนัข
เอโปร การเลือกอาหารสุนัขตามสายพันธุ์ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยสายพันธุ์ของสุนัขนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มตามขนาดตัวของสุนัข
คือ สุนัขสายพันธุ์ขนาดเล็ก สุนัขพันธ์ุขนาดกลาง และสุนัขพันธ์ขนาดใหญ่ ซึ่งสายพันธุ์สุนัขแต่ละขนาดก็มีความ
ต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันออกไปตามโครงสร้างของแต่ละสายพันธุ์
1. สุนัขขนาดเล็ก ถือเป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นในบ้าน ทำให้มีกิจกรรมที่ใช้พลังงานค่อนข้างน้อย แต่ก็ค่อนข้างเห่าบ่อย ส่งผลให้อาหารเม็ดมีขนาดเล็กตามไปด้วยรวมไปถึงปริมาณโปรตีน และไขมันก็ไม่ควรมากเกินไปแต่ควรเป็นสารอาหารที่เน้นในด้านการบำรุงขน และผิวหนังมากกว่า
2. สุนัขขนาดกลาง และใหญ่ มีกิจกรรมที่ใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ ทั้งการวิ่งเล่น การออกกำลังกาย อาหารเม็ดก็จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น รวมไปถึงปริมาณไขมัน และโปรตีนก็จะเยอะมากขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้เพียงพอต่อรูปแบบของกิจกรรมของสุนัขแต่ละสายพันธุ์

ที่มา https://pcgshoponline.com/product/aproiq-da-20kg
นอกจากนี้ การเลือกอาหารสุนัขให้เหมาะกับช่วงวัยก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะสุนัขแต่ละช่วงวัยมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน โดยหากเป็นลูกสุนัข อาหารที่ให้ควรเป็นอาหารสำหรับลูกสุนัข อุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตที่สมวัย และเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ลูกสุนัขได้เป็นอย่างดี และควรเป็นอาหารที่เหลวหรือเคี้ยวง่าย เนื่องจากลูกสุนัขฟันยังขึ้นไม่เต็มที่ ส่วนถ้าเป็นสุนัขแก่ ก็ควรเลือกอาหารสุนัขสูตรสำหรับช่วงวัยนี้โดยเฉพาะ อย่างสูตรไดเอต ที่มีการจำกัดปริมาณแคลอรี และไขมัน หรือเลือกสูตรที่มีการเพิ่มสารอาหารจำเป็นบางอย่าง เพื่อความจำเป็นของร่างกายสุนัข
เลือกรสชาติที่สุนัขชื่นชอบ
ตัวเราเองก็ยังชอบที่จะทานอาหารรสชาติอร่อย รสชาติที่ชื่นชอบถูกปาก สุนัขก็เช่นกันแต่ก็ควรต้องทั้งอร่อย และมีประโยชน์ไปพร้อมกัน รับประกันได้ว่าสุนัขของคุณจะทานอาหารได้เยอะขึ้น หากเขาได้ทานอาหารที่มีรสชาติที่เขาชื่นชอบ โดยในปัจจุบันเอโปร มีการผลิตอาหารสุนัขออกมาหลากหลายรสชาติอย่างมาก เช่น รสตับ รสไก่ เป็นต้น ซึ่งเรามั่นใจว่าถ้าคุณเลือกซื้ออาหารสุนัข เอโปร ปัญหาในเรื่องของการเลือกรสชาติจะหมดไปอย่างแน่นอน ดังนั้น มาเลือกซื้ออาหารสุนัข เอโปร จากรสชาติที่สุนัขของคุณชื่นชอบกันเถอะ

ที่มา https://pcgshoponline.com/product/aproiq-da-20kg
เลือกเฉพาะบาร์ฟที่สดใหม่
การให้อาหารหมาแบบบาร์ฟ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนเลี้ยงหมานิยมกัน เพราะจะเป็นการให้อาหารดิบตามพื้นฐานสัญชาตญาณของสุนัข เช่น เนื้อสัตว์ดิบ ปลา ผัก ฯลฯ ถือเป็นการให้อาหารที่กลับไปสู่ธรรมชาติดั้งเดิมของสุนัขนั่นเอง แต่ทั้งนี้ การเลือกบาร์ฟ ก็ควรคำนึงถึงความสดใหม่ ความสะอาดของวัตถุดิบ ที่สำคัญไม่ควรทิ้งไว้ค้างคืน เพราะอาจทำให้สุนัขท้องเสียได้ หากใครไม่
สะดวกที่จะเตรียมอาหารดิบในทุกๆ มื้อ ก็สามารถเลี่ยงไปใช้อาหารสุนัขแบบเม็ดได้
เลือกที่มีส่วนผสมคุณภาพ
แม้ว่าอาหารสุนัขที่วางขายในปัจจุบัน จะมีสูตรต่างๆ ให้เลือกซื้อมากมาย แต่เราก็ควรคำนึงถึงส่วนผสมหลักที่อยู่ในอาหารด้วย ซึ่งการเลือกนั้นก็ควรเลือกประเภทที่มี โปรตีนจาก “เนื้อสัตว์” เป็นส่วนประกอบหลัก เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู เนื้อปลาเนื้อแกะ เพื่อให้สุนัขของเราได้รับโปรตีน และสารอาหารที่ครบถ้วน นอกจากนี้ ควรเลือกอาหารที่มีสัดส่วนของ “ไขมัน” ประกอบอยู่ด้วย เนื่องจากถือเป็นสารอาหารสำคัญที่จะช่วยบำรุงผิวหนัง และขน อีกทั้งทำให้น้องหมามีพลังงาน รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่เซื่องซึมอีกด้วย

ที่มา https://pcgshoponline.com/product/aproiq-da-20kg
ระมัดระวังเรื่องการแพ้อาหารของสุนัข
นอกจากคนแล้ว สุนัขก็สามารถแพ้อาหารได้เช่นกันค่ะ ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องที่เจ้าของควรจะใส่ใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากน้องหมาพูดไม่ได้ หากเราไม่ทันได้ใส่ใจอาจจะยิ่งทำให้เป็นอันตรายมากขึ้น เราจึงควรสังเกตพฤติกรรมของพวกเขาอยู่ตลอด เพราะหากปล่อยไว้นานอาจเป็นอันตรายต่อตัวสุนัขได้ สำหรับอาการแพ้ของสุนัขนั้นอาจเกิดขึ้นเป็นผื่นแดงหรืออาการคันที่ผิวหนังซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่บริเวณที่มักจะแสดงอาการมากเป็นพิเศษ คือ ใบหู, อุ้งเท้า, ท้อง และบริเวณสะโพก
นอกจากนี้ สุนัขอาจมีอาการท้องเสียหรืออาเจียนร่วมด้วยได้ ส่วนใหญ่สาเหตุการแพ้มักมาจากส่วนผสมในอาหาร เช่น โปรตีนจากเนื้อสัตว์หรือสารปรุงแต่งในอาหาร โดยวิธีการรักษา คือการเปลี่ยนชนิดของอาหาร ทั้งนี้ทั้งนั้น อาการแพ้เป็นเรื่องที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยหลีกเลี่ยงการให้สุนัขกินอาหารชนิดเดิมติดกันเกิน 2 ปี และเมื่อจำเป็นต้องเปลี่ยนชนิดอาหาร เราขอแนะนำให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยน รวมถึงต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของสุนัขหลังจากเปลี่ยนอาหารด้วย