บอสตัน เทอร์เรียร์ ปกติแล้วทาสหมาทุกคนจะรู้สึกตกหลุมรักน้องหมาได้ง่ายอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสุนัขที่มีความฮาบนหน้าตาเล็กน้อยยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับมันมากยิ่งขึ้น ซึ่งสุนัขที่เราจะพูดถึงในวันนี้คือน้องหมาพันธุ์บอสตัน เทอร์เรียร์ (boston terrier) ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก โดยสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกเจอเป็นครั้งแรกที่รัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าถูกผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างน้องหมาพันธุ์บลูด็อกกับน้องหมาพันธุ์ white english terrier จึงทำให้มีหน้าตาที่คล้ายคลึงกับทั้งสองสายพันธุ์ดังกล่าว โดยสุนัขพันธุ์นี้มีหัวกะโหลกเป็นลักษณะทรงสี่เหลี่ยมหน้าไม่กลม ตาโตกลมดำมะเมี่ยม ลำตัวไม่ยาวมาก บริเวณผิวหนังมีรอยพับเป็นคลื่น ๆ บางจุด เรียกว่าน่าจับน่าสัมผัสอยู่ไม่น้อย ส่วนหูมีลักษณะตั้งชี้ขึ้น ปากสั้นทำมุมกับจมูกโค้งคว่ำลงไปทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกว่ามันกำลังเบะปากใส่หรือกำลังทำหน้าตาที่เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างน่าขบขัน ซึ่งนี่ถือเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของสุนัขพันธุ์นี้และทำให้ผู้คนต่างหลงใหลในการชักสีหน้าของมันอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ขนาดขนของสุนัขพันธุ์บอสตัน เทอร์เรียร์จะมีความสั้นเกรียนเกือบติดผิวหนังเลยก็ว่าได้ ซึ่งสีขนที่พบได้บ่อยมักจะเป็นสีดำผสมกับสีขาว สีน้ำตาล สีครีม สีดำเข้ม หรือสีขาวเป็นต้น ด้วยความตัวเล็กของมันที่มีน้ำหนักอยู่ราว ๆ 4-11 กิโลกรัม จึงทำให้สุนัขพันธุ์นี้มีมวลกล้ามเนื้อที่หนักและแน่น ดังนั้นหากคิดจะเล่นสนุกกับมันคงต้องเผื่อแรงเอาไว้มากพอสมควร มิฉะนั้นคนที่จะโดนเล่นงานอาจจะเป็นคุณก็เป็นได้ จากข้อมูลโดยทั่วไปพบว่าสุนัขพันธุ์นี้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์ราว ๆ 13-15 ปี ดังนั้นผู้เป็นเจ้าของควรดูแลเอาใจใส่สุขภาพกายสุขภาพใจของน้องหมาเป็นอย่างดี เพื่อสร้างความทรงจำดี ๆ และความประทับใจแก่กันให้มากที่สุดนั่นเอง
ลักษณะนิสัยสุดพิเศษของ สุนัขพันธุ์ บอสตัน เทอร์เรีย
หลังจากที่พูดถึงรูปร่างหน้าตาของสุนัขพันธุ์นี้ที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับมันได้ คราวนี้เรามาศึกษาถึงพฤติกรรมและนิสัยของมันว่าจะมีแนวโน้มการแสดงออกอย่างไรบ้าง ซึ่งขอบอกเลยว่ามันช่างขัดแย้งกับหน้าตาอันยียวนของมันอยู่พอสมควร เพราะสุนัขพันธุ์นี้มักจะมีนิสัยขี้เล่นรักความสนุกสนาน ชอบออกสังคมและมีความเฉลียวฉลาดเกินกว่าความเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีนิสัยรักการสัมผัสจากมนุษย์ซึ่งอาจจะเป็นการลูบคลำการกอดหรือการจุ๊บเล็ก ๆ ก็เป็นได้ แต่ทั้งหมดนี้ไม่สามารถการันตีได้ว่าน้องหมาพันธุ์บอสตัน เทอร์เรียร์ จะมีนิสัยนอบน้อมและเข้าสังคมได้ง่ายเสมอไป เพราะสุนัขบางตัวอาจจะมีนิสัยแย่ ๆ บางอย่างที่ควรปรับปรุง เช่นการเล่นที่รุนแรงมากจนเกินไป หรือการแสดงออกทางอารมณ์ที่ดุร้าย จนทำให้สมาชิกท่านอื่น ๆ เกิดความหวาดกลัว ซึ่งในปัจจุบันจะมีโรงเรียนสอนสุนัขที่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คอยให้คำปรึกษาและสามารถปรับพฤติกรรมต่าง ๆ ของสุนัขให้เปลี่ยนแปลงไปในด้านที่ดีได้ นอกจากนี้ความขี้น้อยใจบางอย่างของสุนัขพันธุ์นี้อาจจะปรากฏขึ้นได้ หากผู้เป็นเจ้าของแสดงความรักหรือสัมผัสสัตว์เลี้ยงตัวอื่นมากจนเกินไป ดังนั้นหากท่านมีการเลี้ยงน้องหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรให้ความรักความเอาใจใส่อย่างเท่าเทียมกัน และด้วยขนาดของลำตัวที่ไม่ใหญ่มากทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่เหมาะแก่การเลี้ยงควบคู่กับเด็กเล็กมาก ๆ เพราะนิสัยขี้เล่นใจดีและเป็นมิตรนั้นจะทำให้มันเข้ากันกับสมาชิกตัวน้อยของบ้านได้เป็นอย่างดี
บอสตัน เทอร์เรียร์เลี้ยงง่ายแค่ใส่ใจกันเล็กน้อย
- สำหรับคนไทยบางคนที่นึกอยากจะเลี้ยงน้องหมาจากสหรัฐอเมริกาตัวนี้ อาจจะเป็นกังวลอยู่บ้างว่าควรเลี้ยงอย่างไรดี เพื่อทำให้วิถีชีวิตของน้องหมาเติบโตไปอย่างสมบูรณ์และมีคุณภาพมากที่สุด ซึ่งเราจะขอแนะนำอย่างคร่าว ๆ ว่าน้องหมาพันธุ์ บอสตัน เทอร์เรียร์ เลี้ยงง่ายไม่ต่างจากสายพันธุ์อื่น เพราะมันเป็นสุนัขพันธุ์เล็ก ๆ ที่ไม่ต้องการการใช้แรงงานมากนัก ซึ่งคุณอาจจะแบ่งเวลาพามันไปเดินคราวละ 4-5 ครั้ง / สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งในระหว่างนั้นผู้เป็นเจ้าของควรศึกษาสภาพอากาศในแต่ละวันด้วยว่ามีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่ เพราะน้องหมาพันธุ์นี้มีขนสั้นในบางโอกาสอาจจะทำให้เกิดภาวะ overheet จากสภาพอากาศของประเทศไทยได้ นอกจากนี้ในวันที่อากาศเย็นมาก ๆ ควรหาเสื้อกันหนาวเล็ก ๆ หรือผ้าห่มให้น้องหมาได้เพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวเองและป้องกันการเจ็บป่วยได้ด้วย
- ในแง่ของการให้อาหารสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ผู้เป็นเจ้าของจะต้องพิจารณาจากน้ำหนักของน้องหมาด้วย ซึ่งโดยปกติควรให้อาหารวันละ 2 ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามสำหรับอาหารที่จัดหาให้นั้นควรมีความหลากหลายและมีสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสมด้วย
- แม้ว่ามันจะเป็นสุนัขที่มีกล้ามเนื้อบึกบึนดูแข็งแรงตลอดเวลา แต่ผู้เป็นเจ้าของควรสังเกตอาการต่าง ๆ ในแต่ละวันอย่างสม่ำเสมอ เพราะน้องหมาพันธุ์นี้มีโรคประจำสายพันธุ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อสุขภาพของมันได้เสมอ เช่นโรคทางระบบประสาทซึ่งเกี่ยวกับความวิตกกังวลอย่างรุนแรง โดยน้องหมาอาจจะมีภาวะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรือมีอาการซึมอย่างต่อเนื่อง หากเกิดภาวะเหล่านี้ผู้เป็นเจ้าของควรพาไปรักษากับสัตวแพทย์ให้ไวที่สุด นอกจากนี้ยังมีโรคอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถเกิดขึ้นกับน้องหมาพันธุ์บอสตัน เทอร์เรียร์ ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ระบบทางเดินหายใจ หัวใจ รวมถึงโรคเกี่ยวกับหูตาและช่องปากต่าง ๆ ซึ่งหากปล่อยปละละเลย อาจจะทำให้น้องหมาเกิดความทุกข์ทรมานและอาจเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควรได้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าน้องหมาพันธุ์นี้จะมีโรคทางสายพันธุ์ที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเกิดขึ้นกับสุนัขทุกตัวที่เป็นสายพันธุ์นี้ ดังนั้นผู้ที่เป็นเจ้าของพยายามสังเกตอย่างพอเหมาะพอประมาณเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดหรือความกังวลมากจนเกินไปนั่นเอง ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์บอสตัน เทอร์เรียร์ ควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้รอบด้านเสียก่อน ทั้งสถานที่เลี้ยงดูความพร้อมต่าง ๆ จากนั้นจึงไปศึกษาฟาร์มว่ามีวิธีการคัดสรรน้องหมาพันธุ์นี้อย่างไรบ้าง เพื่อทำให้เพื่อนซี้ในอนาคตของคุณมีสุขภาพร่างกายที่สวยงามและแข็งแรงอย่างสมบูรณ์มากที่สุดนั่นเอง
